Thanks to Elsie for english version.
Thai translation : Petra / Panjan / Kosoopaew
ทำงานกับนักเขียนที่ผมชอบมากนี้ ดีมากๆเลยครับ
Q : ช่วงนี้คุณกำลังถ่ายทำหนังเรื่อง Psychic อยู่ แต่ก็ยังคิดถึง ละคร WISFC อยู่เหมือนกันใช่ไหมคะ?
KS : ครับ ผมยังคิดถึงอยู่ คิดถึงช่วงที่ผมต้องคุยกับ นักเขียน อี ยอง ฮี ( Lee kyung Hee )
ทางโทรศัพท์ ตลอด แม้กระทั่งก่อนจะเข้านอน
มันอาจจะเข้ามาในจิตใจโดยไม่รู้ตัว เป็นการดีครับที่ ทำให้ใครคนหนึ่งคิดถึงเรื่องความรัก
Q: หลังเสร็จจากกองทัพ มีงานละครที่เป็นเรื่องของความรักมากมาย ทำไมคุณถึงเลือก WISFC ?
KS : ผมชื่นชม นักเขียน อี ยอง ฮี มานาน และอยากร่วมงานกับเธอ ไม่แปลกหรอกครับ นักแสดงคนอื่นๆ
ก็คิดอย่างนี้เหมือนผม ระหว่างถ่ายทำ ผมกลายเป็นตัวละครที่ผมเล่นคนนั้นไปเลย
ผม พูดคุยกับนักเขียน อี ทุกวันทางโทรศัพท์ ช่วยให้ผมถ่ายทอดออกมาในละครได้ ยังไงก็ตาม ละครทีวีก็มักจะถูกควบคุมจาก เรทติ้ง ของคนดูอยู่ดีแหละครับ
Q : แล้ว เมื่อทำงานกับ ผู้กำกับ Choi Moon Suk ล่ะ ?
KS : ผมเพิ่งคุยกับผู้กำกับ Choi ทางโทรศัพท์ เมื่อไม่นานมานี้เองครับ เขาเป็นคนดีมากครับ ตอนที่เราทำงานด้วยกัน
เขาเหมือนเป็นคุณลุงของผม เป็นคนดีมาก เขาทำงานละเอียด มีประสิทธิภาพ จนเราไม่เคยต้องทำงาน
ตลอดทั้งคืนเลยสักครั้ง เขาจะเตรียมงานมาล่วงหน้าอย่างดี จนบางครั้งเพราะเหตุนี้ ผู้กำกับ Choi บ่นว่าเดี๋ยวนี้ผมของเขาเริ่มเป็นสีเทาไปแล้ว
Q : ความรู้สึกของคุณเป็นยังไง ตอนได้เห็นตัวเองในทีวี หลังจากหายไปถึง 4 ปี?
KS : ผมได้รับคำวิจารณ์ที่ดี มาก และมากมาย จากคนรอบๆตัวผม ที่ได้ดูละคร และ ก็มีคำวิจารณ์
ที่ไม่ดี จากคนที่ไม่ได้ดูละครเลย ( หัวเราะ) สำหรับการเห็นตัวเองในทีวี มันนานมาแล้วครับที่ผมได้ออก TV ผมถึงต้องไปลดความอ้วน ( หัวเราะ)
ชา คังจิน จะต้องผอม สักหน่อย
Q : ตอนที่พบ ชา คังจิน ครั้งแรก คุณคิดว่า เสน่ห์ของเขาคือ อะไร?
KS : คังจิน ของ นักเขียน อี คือ ผู้ชายคนหนึ่งที่ทำทุกอย่างอย่างสมบูรณ์ เพอเฟค ไม่เคยล้มเหลว เป็นบทที่แรงครับ
ผมคิดเอาเองน่ะครับตอนที่ได้ยิน (หัวเราะ) ผมเป็นคนใจกว้างครับ วิธีไหนกันเล่าที่ผมจะลื่นไหลเข้าไปในบทของ คังจิน
คนที่เก็บตัว ไม่พูด และแบกสิ่งหนักๆ มากมายไว้บนบ่า ?
Q : อะไรที่เหมือนกัน และแตกต่างกัน ของคุณ กับ คังจิน?
KS : อดีตของคังจิน และวิถีชิวิตของเขา แตกต่างจากของผม อย่างที่เห็นหรือครับ ? ฮ่าๆ เขาได้รับความนับถือจาก
ทั้งชายและหญิง จากงานอาชีพของเขาด้วย ผมก็เหมือนกัน คุณคิดว่า เราเหมือนกันตรงสิ่งนี้หรือเปล่าครับ ?
ผมได้เรียนรู้จากคังจินในเรื่องทัศนคติเกี่ยวกับงาน เราทั้งคู่ชอบกีฬาเหมือนกัน แต่คังจิน เป็นคนมีปัญหา
เพราะว่าเขาเป็นผู้ชายที่มีความทุกข์ ตอนนี้ผมถ่ายทำเรื่อง Psychic เล่นเป็นคนเฮฮาสนุกสนาน และกำลังมองย้อนกลับไป
ยังบทก่อนๆที่เข้มข้นและเครียดของผม (หัวเราะ)
Q: คังจิน เป็นผู้ชาย เพอเฟค ที่มีความสามารถรอบตัว เก่งทุกอย่าง เล่นกีฬาเก่ง ผมหวีเรียบ รักผู้หญิงแค่คนเดียวในชีวิต
คุณรู้สึกกดดันหรือเปล่าที่ต้องเล่นเป็นเขา ?
KS : ผมไม่ได้คิดมาก ว่า ความสมบูรณ์แบบนี้จะเป็นอุปสรรคปัญหา ถ้าคุณถามใครสักคน ว่าใครคือผู้ชายในอุดมคติ
คงไม่มีคำตอบ เพราะว่าไม่มีใคร เพอเฟค คังจินไม่ได้เติบโตมาในสิ่งแวดล้อมที่ดี
แต่เขาเป็น.” มิตร”เมื่อตอนเป็นเด็ก (หัวเราะ) ผมไม่ได้มีปัญหาอะไรที่เล่นเป็น คังจิน ที่มีหัวใจรักดวงเดียว
Q: คังจินยอมละทิ้งความรัก และทนเจ็บปวดอยู่ฝ่ายเดียว คุณรู้สึกอย่างไร ในฐานะของนักแสดง?
KS : ผมไม่คิดว่าจะมีทางเลือกอื่น ไม่ว่าจะยากสักเพียงไหน บทคือทุกๆสิ่ง ถ้าฉากเขียนไว้ว่า ผมจะต้องตาย
ผมก็จะตาย ในบทเขียนว่า คังจิน กอดความเจ็บปวดทั้งหมดไว้ ผมจึงเล่นไปตามนั้น
Q : จริงหรือเปล่าที่ว่า แม้ว่าละครจะอวสานไปแล้ว แต่บทที่คุณเล่นยังคงติดค้างอยู่อีกระยะหนึ่ง
KS : บทบาทมักขึ้นอยู่กับการยอมรับของผู้ชม สำหรับนักแสดงเองที่เป็นผู้ถูกหยิบยื่นบทบาทให้
การซึมซับเข้าถึงบทบาท
ความรู้สึก และข้อความที่จะถ่ายทอดออกมาในละคร มันค่อนข้างยากที่จะลืมได้ง่ายๆ
มันจะมีอิทธิพลอยู่ในชิวิตจริงของนักแสดงคนนั้น เมื่อเขาจะเริ่มงานชิ้น
เขาจะต้องมีภาพใหม่ในชิวิต ผมพยายามที่จะไม่เป็นแบบนั้น
Q: โกซูสามารถที่จะรักเดียว ใจเดียว เหมือนคังจินได้หรือเปล่า?
KS : ตรับ ครั้งหนึ่ง ผมเคยเปิดหัวใจให้ใครคนหนึ่งที่ผมชอบ (หัวเราะ) ในโลกใบนี้ มีแต่ความเศร้า เจ็บปวด
ความริษยา และอารมณ์หลากหลาย มีเพียงรักเท่านั้นที่จะผ่านพ้นสิ่งเหล่านี้ได้ ผมรู้ดี ความรักนั้นยิ่งใหญ่
อึม... ผมไม่รู้ว่าชอบแบบไหน แต่ผมอยากได้รักที่ยิ่งใหญ่ในอนาคต (หัวเราะ)
ผมไม่ได้บอกว่าจะเอาตอนนี้ครับ แม้ว่าความรักไม่มีกำหนดเวลาที่แน่นอน แต่ ตอนนี้งานสำคัญกว่า
ผมกลายเป็นคนโลภมาก และนิสัยเสียมากกว่าเมื่อก่อน( หัวเราะ)
Q : 2 ปีที่หายไปได้เพิ่มความต้องการที่จะแสดงให้คุณมาหกว่าเดิมไหม ?
KS : ก็มีการเปลี่ยนแปลงบ้าง หลังออกจากทหาร สภาพร่างกายผมดีขึ้น และรู้สึกมีพลังมากขึ้น
อย่างไรก็ตามผมก็ไม่ได้พัก ผมไปเล่นละครเวที หนัง แล้วก็ละครทีวี ผมอยากจะพักสักหน่อย
แต่พอเมื่ออยู่บ้าน ก็รู้สึกว่า” นี่ผมกำลังทำอะไรอยู่ที่นี่ “เวลาเป็นสิ่งมีคา และไม่มีวันหวนกลับมา
Q : มีการเปลี่ยนแปลงอื่นๆอีกบ้างไหม นอกจากการแสดง?
KS : ผู้คนที่ผมไม่ได้พบมาเป็นเวลานาน บอกว่า ผมเจอสิ่งที่ยาก และเข้มแข็ง
ในหนทางที่ดี และตอนนี้ผมพูดเก่งมากขึ้น( หัวเราะ) ผมได้ประสบการณ์ หลายสิ่งหลายอย่าง
ความคิดที่ได้มากมายจากกองทัพ แม้แต่อุปนิสัยการกินของผมก็เปลี่ยนไป
Q: การรับใช้ชาติ ทำให้การแสดงของคุณลึกซึ้งมากกว่าเดิม คุณทำสำรวจบ้างหรือเปล่าสำหรับบทของ ชาคังจิน?
KS : เมื่อผมตัดสินใจรับบท ผมคิดแต่เรื่องของตัวละคร มากกว่าจะตัดสินว่าจะทำอะไรกับบทนี้ บทจะถูกพัฒนา
ไปเองตามธรรมชาติ เช่นจะเป็นอย่างไรถ้าผมจะทำตามแบบของผม? คงจะไม่มีที่สำหรับคำพูดที่ไร้สาระที่มีในฉาก
ผมอยากจะใส่ตัวของผมเองลงไปในตัวของคังจินอีกสักเล็กน้อย
Q: คุณยังจำฉากที่คุณเอารองเท้าไปให้ จีวาน และฉากจูบที่สวยงามที่บ้านเกิดได้ หรือเปล่า?
KS : ยังจำได้ดีเลยครับ ที่จำได้เด่นชัดเจนมากที่สุด คือที่ แมนชั่น( คิดว่าเป็น ออฟฟิค= เอลซี่ )
ตรงที่พนักงานวิ่งกันอยู่รอบๆทางเดินแคบๆนั้น โดยเฉพาะตอนที่ 10 และ 11 ที่ซังเชิน
Q : การจูบ ซุน อู ซุน ถูกพูดถึงอย่างมาก มีเหตุผลอะไรที่ต้องมีน้ำตา ?
KS : ที่จริงการร้องไห้ ไม่ได้มีอยู่ใน สคริ๊ปหรอกครับ แต่น้ำตามันไหลออกมาเองโดยธรรมชาติ
คังจิน ไม่ได้พบ จีวานมาถึง 8 ปี แต่เขาต้องปล่อยเธอไป โดยให้เธอเห็นเขาจูบผู้หญิงอื่นที่เขาไม่ได้รัก เขาเสียใจมาก
โชคดีมีข้อผิดพลาดเพียงเล็กน้อยในฉากนี้ ผู้กำกับ ไม่ชอบให้เทคซ้ำครับ( หัวเราะ)
Q: นอกจาก จีวาน ชุน ฮี ก็มีบทบาทมากในชิวิตของคังจิน เพราะเป็นแม่ของเขา คุณเล่นอย่างไร สำหรับบทบาทของลูกชาย กับ แม่?
KS : ฉากที่เล่นกับ ชุน ฮี ยังติดอยู่ในใจของผม มันจำเป็นที่จะต้องแสดงเป็นเหมือนเพื่อนกับรุ่นพี่ โจ มิน ซู
เธอเป็นนักแสดงคนโปรดของผมคนหนึ่ง และเคยเล่นเป็นแม่เลี้ยงผม ในเรื่อง Piano ด้วย ละคร ของ SBS ในปี 2001
เธอเป็นคนดีมากครับ ผมเสียดายที่ผมยังไม่มีความสามารถในการแสดงเทียบเท่าระดับเดียวกับเธอ
Q: มีความทรงจำอื่นๆที่ดีๆจากละครอีกหรือเปล่า?
KS : ถ้ามีโอกาส อยากจะเป็นคังจินที่เข้มแข็งกว่านี้ครับ บุคลิกของคังจิน นักเขียน อี เขียนไว้นานแล้ว
ตั้งแต่ก่อนผมตัดสินใจรับบท ยังไงก็ตามคงจะดี ถ้าทีมผลิตพิจารณาที่จะบวกเอาตัวของผม (โกซู ) ใส่ลงไปใน( บุคลิก) ตัวของ คังจิน สักเล็กน้อย
Q : มีฉากยอดเยี่ยมหลายฉาก ระหว่าง ชุน ฮี และคังจิน ถ้าคุณจะหยิบออกมา คุณจะเลือกฉากไหน?
KS : ฉากที่ Kim Soo Hyun (ไม่ใช่ผมนะครับ ) และชุน ฮี กลับมา ซังเชิน แล้วมาตัดป้าย แสดงความยินดี
ของพี่ชาย จีวาน มันบอกใบ้ถึง เหตุการณ์ที่จะเกิดตามมา ฉากต่อมาเป็นฉากที่ผม พาสาวไปเยี่ยมแม่
และฉากรองเท้ากับ ชุนฮี
ผมอยากใช้ชิวิตอยู่อย่างเงียบๆ ไม่เป็นที่สนใจของใคร
KS : มีการสื่อสารกันตลอดระหว่าง นักแสดงกับทีมงาน เป็นสิ่งที่ดีมาก เพราะว่ามีสิ่งที่ต้องเกี่ยวข้องกัน
แม้ว่าเมื่อก่อนผมเคยพยายามที่จะทำ เดี๋ยวนี้ยิ่งขยันทำมากขึ้นกว่าเดิมครับ ตอนนี้ผมมีปฏิสัมพันธ์ กับคนอื่นๆ
ดีกว่าเมื่อก่อน (หัวเราะ) ผมตระหนักแล้วว่า คุณควรจะต้องสร้างความสัมพันธ์ที่ดี กับคนให้มาก
Q : โปรดบอกคนดูชาวญี่ปุ่น ว่าละครเรื่องนี้เป็นอย่างไร ? มาฟังกันเลยค่ะ
KS : ละครเรื่องนี้ เป็นประวัติศาสน์ ของความรัก ที่มีฤดูหนาวเป็นฉากหลัง และผมดีใจที่มันดูสนุกทุกฤดูแหละครับ
ไม่จำเป็นจะต้องเฉพาะหน้าหนาว เป็นชิวิตการต่อสู้จนถึงที่สุดของความรัก ผมขอให้ทุกคน
ประสพความสำเร็จ สมหวังในรักนะครับ
Q : ใน Psychic หนังเรื่องล่าสุดคุณเล่นเป็น กยู นัม( Gyu Nam ) เป็นประชาชนคนธรรมดา ที่ขี้สงสัยและ รอบคอบ แล้วไม่ตกอยู่ในอำนาจ
ของคนที่เหนือมนุษย์ คนนั้น การถ่ายทำไปถึงไหนแล้ว
KS : ครับ กำลังถ่ายทำอย่างคึกคัก ผมสนุกมากๆเลย ผมเคยได้ยินคนพูดว่า ถ้าเราสนุกกับฉาก งานดีๆก็จะออกมาเอง
หนังเรื่องนี้ ดีมากครับ (หัวเราะ)
Q: ทำงานกับ คัง ดง วอน เป็นครั้งแรก เป็นอย่างไรบ้าง ?
KS : คัง ดง วอน อายุน้อย แต่มีความคิดเป็นผู้ใหญ่ เขาเรียกผมว่า รุ่นพี่ การนับถือกันแบบนี้ ทำให้ผมรู้สึก ดีครับ (หัวเราะ)
เราเข้ากันได้ดีมาก เพราะว่าชอบกีฬาเหมือนกัน พวกเรายังไป ค่ายเทรนนิ่ง ด้วยกันมา
ครั้งนี้ บทของผม กยู นัม เป็นคนธรรมดา สนุกสนาน แต่ของ คัง ดง วอน หนักและ ยาก เหมือนบท โย ฮันของผม
ใน White Night ครับ
Q : คุณเคยพูดมาก่อนว่า ไม่อยากให้มีข้อจำกัดของภาพพจน์ที่ดี ของคุณ ยังมีความต้องการที่จะเปลี่ยนภาพพจน์อยู่อีกหรือเปล่า ?
KS : ผมไม่ได้หัวเสีย หรือกลุ้มใจ กับการเปลี่ยนแปลงของภาพพจน์หรอกครับ
ผมเริ่มมีอายุมากขึ้น แต่ไม่ว่าจะเล่นบทอะไร ผมก็ยังคงเป็นผม รุ่นพี่ ซอง คัง โฮ Song Kang-ho ที่เขาเคยเล่นมาแทบทุกบทบาท
ยังเคยแตกบทออกไปอีก มันขึ้นอยู่กับเวลาที่เหมาะสม น่ะครับ ผมเอง เลื่อนเวลาที่จะเปลี่ยนออกไปอีก
ในภายหน้าต่อไปนี้ ผมจะค่อยๆ เปลี่ยนและขยายบทบาทออกไปที่ละน้อยๆ
Q: คุณอยู่ในวงการมา 12 ปีแล้ว คุณคิดว่าจะอุทิศตัวเองให้กับการแสดง ตลอดไปไหม?
KS : ผมก็ยังไม่ทราบครับ ผมยังไม่เข้าใจการแสดงอย่างถ่องแท้ และยังตัดสินไม่ได้ แต่ผมก็ระมัดระวัง รอบคอบมากกว่าเมื่อก่อน
ผมกลายเป็นคนถ่อมตัว ผมพยายามที่จะไม่ไม่ชอบใคร และพยายามที่จะเป็นคนที่เอาใจใส่
จิตใจของคนอื่นด้วย ผมคิดว่า การแสดงก็เหมือนอาชีพชนิดหนึ่ง แม้จะเป็นอาชีพที่แตกต่างเล็กน้อย จาก
พนักงานบริษัททั่วๆไป (หัวเราะ)
Q : ท้ายสุดนี้ เป้าหมายของคุณคืออะไร ในฐานะนักแสดง ?
KS : นักแสดงก็เป็นมนุษย์ที่ต้องการความแปลกใหม่ ผมจะทำงานหนักและจะพยายามทำอย่างดีที่สุด และสุดความสามารถของผม
โปรดรอคอยงานของผมนะครับ หวังว่าคุณก็จะทำอย่างดีเช่นกัน
~~~~~~~~~~
ในวันหนึ่งของเดือน กรกฏาคม 2010 ฉันใช้เวลา 3 ชั่วโมงกับ โกซู ได้เห็นการเปลี่ยนแปลงแบบที่ละน้อยของเขา
อย่างแรกเลย คือดวงตาลุ่มลึก ที่เท่ห์ และ อ่อนโยน ทำให้ฉันหวนระลึกถึง คัง จิน ใน ละคร Will It snow for Christmas?
การถ่ายรูปเริ่มขึ้น แล้วเปลี่ยนไปอย่างช้าๆ เขาร่วมคุ้นกับกล้อง พอถ่ายเสร็จ
เขาก็ตรงไปนั่งเพื่อให้สัมภาษณ์ เขาเป็นคน ฉลาด เห็นได้จากใบหน้าที่ยิ้มแย้มของเขา
โกซู นักแสดงที่ซื่อสัตย์ได้กลับมาสร้างสีสัน ในจอแก้ว
อีกครั้ง หลังจากห่างหายไปถึง 4 ปี
No comments:
Post a Comment